วันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2555

กินเจอย่างไร ให้ สวย ใส สุขภาพดี





ใกล้ถึงช่วงเทศกาลกินเจ ประจำปี 2555เข้ามาทุกที ในปีนี้ตรงกับวันที่ 15 – 23 ตุลาคม เทศกาลถือศีลกินผัก หรือที่เรียกกันว่ากินเจนั้น เดิมทีจะเป็นช่วงที่งดรับประทานเนื้อสัตว์และหันมารับประทานผักหรืออาหารที่ไม่ได้มาจากสัตว์ พร้อมทั้งประพฤติปฏิบัติดีอยู่ในศีลธรรมอันดีงาม แต่วัตถุดิบที่นำมาทำอาหารเจบางอย่างทำมาจากแป้งและมีน้ำมันมาก ดังนั้นแทนที่จะมีสุขภาพที่ดี กลับกลายเป็นว่าต้องเผชิญกับสภาพอ้วน ที่เกิดจากแป้งและน้ำมันจากอาหารเจด้วย

เพื่อให้การกินเจใน ปี 2555 นี้ของคุณเป็นไปอย่างดีทั้งกาย วาจา และใจ ก็ต้องเริ่มจากการเลือกรับประทานอาหารที่ถูกต้องเหมาะสม และมีสุขภาพดีควบคู่ไปด้วย ดังนั้นเราต้องรู้ก่อนว่าอาหารชนิดใดที่สามารถให้สารอาหารที่เทียบเท่ากับอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ได้บ้าง และควรรับประทานอย่างไรให้ถูกวิธี
เนื่องจากเนื้อสัตว์มีสารอาหารหลัก คือ โปรตีน ดังนั้นอาหารที่เป็นแหล่งโปรตีนนอกจากเนื้อสัตว์ก็คือ พืชตระกูลถั่ว ทั้งยังมีธาตุเหล็ก ช่วยลดคอเลสเตอรอล และในปัจจุบันมีการนำมาแปรรูปเป็นโปรตีนเกษตร ทำออกมาให้คล้ายกับเนื้อสัตว์แต่ไม่มีไขมัน จึงสามารถนำมาประกอบอาหารเจได้อย่างไร้ความกังวล
ในส่วนของผักและผลไม้ ก็ควรรับประทานผลไม้หลากหลายสี เพื่อให้ได้รับวิตามินและแร่ธาตุครบถ้วน ที่สำคัญคือ เส้นใย ที่จะช่วยขับถ่ายของเสียและสารพิษตกค้างออกจากร่างกายด้วย


             ข้อแนะนำจากพญ.กอบกาญจน์ ไพบูลย์ศิลปะ รองกรรมการผู้จัดการบัลวี-ศูนย์ธรรมชาติบำบัด สำหรับผู้ที่กลัวว่าการกินแป้งและน้ำมันในอาหารเจจะทำให้อ้วนนั้น มีวิธีการดังนี้
1.เลือกกินข้าวหรือแป้งที่ไม่ขัดขาว เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต ลูกเดือย ธัญพืชต่างๆ ร่างกายใช้พลังงานในการย่อยออกมาเป็นแป้งที่พร้อมดูดซึม ซึ่งน้ำตาลไม่สูงมากนัก เมื่อเทียบกับปริมาณที่เท่ากันของแป้งขัดขาว
2.เลือกกินผักใบมากกว่าพืชหัว เพราะผักใบมีคาร์โบไฮเดรตที่น้อยกว่าพืชหัวมาก ดังนั้น การกินผักใบจะทำให้เราได้พลังงานและปริมาณแป้งน้อยกว่า
3.เลือกกินของนึ่ง ต้ม ตุ๋น ดีกว่าของทอดและผัด เพราะช่วยให้เลี่ยงการกินน้ำมัน ซึ่งมีไขมันอยู่สูง
4.กินหวานให้น้อยลง ไม่ใช่ว่ากินเจแล้ว จะสามารถกินขนมหวานได้เต็มที่ เพราะไม่ว่าจะเป็นอาหารเจหรือไม่ ถ้ามีส่วนผสมของน้ำตาลอยู่มากก็อ้วนได้เช่นกัน
5.อดอาหาร ล้างพิษหลังกินเจ เพราะจะช่วยให้ร่างกายขับพิษต่างๆ ออกมาได้ ทั้งช่วยลดไขมันในเลือด ลดน้ำหนัก ลดภาวะร้อนในจากธาตุในร่างกายที่ไม่สมดุลได้อีกด้วย

วันพุธที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ใบหน้าเนียนสวยด้วย 7 ขั้นตอน



            เชื่อว่าผู้หญิงทุกคนล้วนอยากมีใบหน้าที่เนียนสวยกระจ่างใสดูดีด้วยกันทั้งนั้น แต่ไม่รู้ว่าจะมีวิธีปรนนิบัติผิวหน้าอย่างไร เรามี 7ขั้นตอนเพื่อใบหน้าเนียนสวยกระจ่างใสมาฝากกัน ค่ะ

           1.ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของวิตามินอี เนื่องจากวิตามินอี เป็นอาหารผิวดีเลิศที่ช่วยในการฟื้นฟูให้ผิวเรียบเนียน ดังนั้น ควรเติมวิตามินอีบนผิวหน้าของคุณผู้หญิงบ่อย ๆ นั่นเองค่ะ

           2. นอนหลับให้เพียงพอ การนอนหลับเป็นการพักผ่อนผิวพรรณอย่างแท้จริง จริงๆ แล้วไม่ได้มีผลแค่ใบหน้านะคะ แต่ยังส่งผลถึงผิวทุกส่วนเลยทีเดียว ดังนั้นคุณผู้หญิงควรนอนหลบพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่นอนดึกเป็นดีที่สุดและควรนอนไม่ต่ำกว่า 7 ชั่วโมง ลองเข้านอนเร็วและนอนให้พอไม่ต่ำกว่า 7 ชั่วโมงถ้าทำติดต่อกันได้ทุกคืนภายในเวลา 1 เดือนล่ะ ก็ จะเห็นความเปลี่ยนแปลงของผิวอย่างมากเลยทีเดียวค่ะ

           3. อบไอน้ำใบหน้า การอบไอน้ำหน้าด้วยการนำหน้าไปอังไอน้ำร้อนนั้นเป็นการทำความสะอาดใบหน้าชนิดที่เรียกว่าทำความสะอาดใบหน้าแบบลึกถึงรูขุมขนเลยทีเดียวค่ะ ดังนั้นวิธีนี้จะช่วยลดปัญหาเรื่องสิว หรือใบหน้ามีปัญหาอะไรที่มีสาเหตุมาจากความสกปรก ก็ควรอบไอน้ำใบหน้าเพื่อให้สะอาดที่สุดค่ะ อย่าน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้งเพื่อเป็นการทำความสะอาดใบหน้าของคุณผู้หญิงค่ะ

           4. ขัดผิวหน้าเพื่อผลัดเซลล์ผิวใหม่ โดยการใช้ผ้าขนหนูถูใบหน้าด้วยเจลล้างหน้าเบา ๆ หรือใช้สครับขัดใบหน้าเบา เพื่อช่วยในการผลัดเซลล์ผิว ซึ่งวิธีนี้นับเป็นวิธีดีทีเดียวค่ะ แต่มีข้อระวังคือไม่ควรทำบ่อย ควรทำแค่สัปดาห์ละ 2 ครั้งก็พอแล้วค่ะ ไม่ควรทำบ่อยเนื่องจากจะเป็นการทำให้หน้าเหี่ยวเร็วกว่าวัยอันควรค่ะ
           5. ทานทับทิม เนื่องจากในทับทิมมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อผิวในการเสริมสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินในผิว ดังนั้นการทานทับทิมจึงเป็นวิธีการบำรุงผิวหน้าอย่างหนึ่งที่เราแนะนำค่ะ

           6. เมคอัพช่วยบ้างเพื่อใบหน้าสวยงามเหมาะกับสถานการณ์ ไม่ต้องเมคอัพหนา หรือแต่่งหน้าทุกวัน ควรเว้นให้ใบหน้าได้หายใจบ้าง ควรคุณสามารถแต่งหน้าเบา ๆ เพื่อเสริมความเนียนใสให้กับใบหน้าได้ง่าย ๆ ค่ะ ไม่ว่าจะด้วยรองพื้นแบบบางเบา หรือคอนซีลเลอร์ ขอให้แต่งติดใบหน้าไว้บ้างเล็กน้อยพองาม

           7. ทามอยซ์เจอไรเซอร์สม่ำเสมอ หากคุณผู้หญิงมีสภาพผิวมัน ไม่ได้หมายความว่าคุณผู้หญิงมีความชุ่มชื้นหรือน้ำในผิวเยอะนะคะ ดังนั้น จึงควรทามอยซ์เจอร์ไรเซอร์อย่างต่อเนื่องทุกวันโดยเฉพาะทาก่อนนอนค่ะ เพราะมอยซ์เจอไรเซอร์จะช่วยเติมน้ำให้ผิวและผลที่ได้ก็คือใบหน้าสวยเต่งตึงไม่แห้งเหี่ยวนั้นเองค่ะ

           เมื่อรู้เคล็ดลับหน้าเนียนสวยกันแล้ว ก็อย่าลืมนำวิธีเหล่านี้ที่แนะนำไปปรนนิบัติ ผิวหน้าของคุณผู้หญิงเพื่อใบหน้าเนียนสวยตราบนานเท่านานค่ะ

ขอบคุณภาพจาก : womenkapook.com
บทความโดย : Ladyvisa.com

วันอังคารที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2555

วิธีนวดหน้า "เรียว" ด้วยตัวเอง

                                        

วันนี้พาคุณผู้หญิงมารู้จักกับวิธีนวดหน้าเรียวด้วยตัวเองค่ะ ด้วย วิธีนวดหน้า จะช่วยให้คุณผู้หญิงมีใบหน้าที่ยกกระชับและเรียวขึ้น หรือจะเรียกว่า วิธีนวดหน้าเรียว ก็ได้นะจ๊ะ ที่สำคัญ วิธีนวดหน้า นี้คุณยังสามารถทำได้ด้วยตัวเองที่บ้านโดยไม่ต้องเสียเงินไปเข้าร้านกันเลยทีเดียวค่ะ สำหรับ วิธีนวดหน้าด้วยตัวเอง นี้ควรทำอย่างน้อยอาทิตย์ละ 2 ครั้งนะค่ะ คุณผู้หญิงพร้อมจะเรียน วิธีนวดหน้าเรียว กันรึยังเอ่ย...ถ้าพร้อมแล้วก็มาเริ่มวิธีนวดหน้ากันเลยค่ะ




วิธีนวดหน้า


- เริ่มจากบริเวณหน้าผาก ให้ใช้นิ้วกลางและนิ้วนางเริ่มจากกึ่งกลางหน้าผากนวดวนขึ้นเป็นแนวขดลวด (ขึ้นหนักลงเบา) นวดจนถึงบริเวณขมับ 6 จังหวะ ทำซ้ำ 3 ครั้ง โดยครั้งสุดท้ายให้กดจุดที่ขมับเพื่อความผ่อนคลาย

- บริเวณรอบดวงตาและยกกระชับริมฝีปาก ใช้นิ้วกลางและนิ้วนางนวดเบา ๆ บริเวณใต้ตา โดยเริ่มจากแนวโครงกระดูกเบ้าตาล่าง วนไปมาเบา ๆ นับ 1 ครั้ง ทำซ้ำ 3 ครั้ง จากนั้นเริ่มนวดจากบริเวณใต้โพรงจมูกลูบออกด้านข้างในลักษณะยกผิวขึ้น ลูบไปมา 3 ครั้งและเลื่อนนิ้วลงมาบริเวณใต้ริมฝีปากล่างลูบออกตามแนวริมฝีปากในลักษณะยกขึ้นทำซ้ำ 3 ครั้ง


- ยกกระชับกล้ามเนื้อบริเวณมุมปาก ใช้ปลายนิ้วทั้งสองข้างนวดจากบริเวณกึ่งกลางคางขึ้นไปที่บริเวณมุมปากในลักษณะยกขึ้น ทำซ้ำ 3 ครั้ง


- ยกกระชับกล้ามเนื้อบริเวณแก้ม ใช้ปลายนิ้วทั้งสองข้างนวดจากบริเวณมุมปากในลักษณะยกผิวขึ้นเป็นมุมกว้างค้างไว้สักครู่แล้วค่อยลูบลงทำซ้ำ 3 ครั้ง


- ผ่อนคลายความตึงเครียดบริเวณดวงตา ใช้นิ้วกลางและนิ้วนางกดบริเวณหัวตาทั้ง 2 ข้าง กดเบา ๆ นับ 1-3 แล้วลูบผ่านเปลือกตาและวนรอบดวงตากลับมากดที่หัวตาทำซ้ำ 3 ครั้ง โดยครั้งสุดท้ายลูบผ่านเปลือกตาไปกดจุดที่บริเวณขมับ


ลองนำวิธีที่แนะนำไปใช้นวดหน้ากันดูได้



วันจันทร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2555

เคล็ดลับ...จัดการปัญหารูขุมขนกว้าง





 ใครที่มีปัญหารูขุมขนกว้างคงจะปวดใจกับสภาพผิวหน้าของตัวเองไม่เบา โดยสภาพผิวหน้าเช่นนี้ เกิดขึ้นเนื่องจากกรรมพันธุ์ หรือการมีสภาพผิวมัน แต่การดูแลอย่างถูกวิธีก็จะช่วยลดปัญหารูขุมขนกว้างของคุณได้เช่นกันค่ะ ส่วนจะต้องทำอย่างไรบ้าง มาดูวิธีกันเลย ...

      1. ดูแลสม่ำเสมอ 

          หัวใจของการดูแลผิวหน้าสำหรับผู้ที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง อยู่ที่การรักษาความสะอาด และการบำรุงรักษาความชุ่มชื้นให้แก่ผิวพรรณ (แม้แต่สภาพผิวมัน ก็ยังต้องการความชุ่มชื้นนะจ๊ะ) โดยคุณควรใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่มีส่วนผสมของกรดไกลโคลิกและกรดซาลิไซลิก ซึ่งจะช่วยผลัดผิวอย่างอ่อนโยน ลดปัญหาการอุดตันของสิ่งสกปรกในรูขุมขน ซึ่งทำให้รูขุมขนที่กว้างดูกว้างและหยาบมากขึ้น นอกจากนี้หลังการล้างหน้าแล้วก็ควรใช้โทนเนอร์เช็ดผิวหน้าซ้ำอีกครั้ง เพื่อเป็นการเช็ดเอาสิ่งสกปรกที่อาจหลงเหลือหลังการล้างหน้า รวมถึงผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่อาจตกค้างอยู่บนผิวออกไป และยังเป็นเป็นการเตรียมผิวให้พร้อมเข้าสู่ขั้นตอนการบำรุงความชุ่มชื้นในลำดับต่อไป นอกจากนี้หากเป็นไปได้ การอบไอน้ำผิวหน้าก่อนการล้างทำความสะอาดเพียงสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ก็จะช่วยให้ทำความสะอาดรูขุมขนได้หมดจดขึ้นด้วยค่ะ 

      2. ไม่บีบแคะหรือสัมผัสผิวหน้าบ่อย ๆ 

          บางคนอดใจไม่ได้ที่จะบีบเค้นรูขุมขนเพื่อให้สิ่งสกปรกถูกดันออกมา ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สมควรทำอย่างยิ่งเชียวค่ะ เพราะนอกจากจะไม่ได้ทำให้ขนาดของรูขุมขนดูเล็กลงแล้ว ยังทำให้ผิวช้ำ และเป็นรอยแดงน่าเกลียดด้วย 

      3. กระชับรูขุมขน 

          ในขั้นตอนการบำรุงผิวเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น หากสามารถเลือกใช้ครีมที่มีคุณสมบัติกระชับรูขุมขนควบคู่กันไปด้วยก็จะเป็นการดีมาก มันจะช่วยลดการผลิตน้ำมัน กระชับรูขุมขน ทำให้ผิวหน้าดูเนียนละเอียดขึ้น 

      4. เลือกเครื่องสำอางให้ถูกกับผิว 

          สาวที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง ควรเลือกใช้เครื่องสำอางสูตร oil free หรือ oil control ซึ่งจะบางเบาไม่หนักผิวหน้า และไม่ซึมหายลงไปอยู่ในรูขุมขน นอกจากนี้การใช้เมคอัพเบสก็จะเป็นการสร้างเกราะบาง ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องสำอางที่จะแต่งในขั้นตอนต่อไป ลงไปอุดตันหรือค้างอยู่ตามรูขุมขนหรือว่าริ้วรอยเล็ก ๆ บนใบหน้าด้วยค่ะ 



          """ใครมีปัญหารูขุมขนกว้าง ต้องลองดูแลผิวหน้าให้ได้ตามนี้กันนะคะ """